29 มิถุนายน 2561 | 11:56 น.
ในโอกาสที่ Mr. Stephan Plenz, Member of Heidelberg Management Board ประจำสำนักงานใหญ่ ประเทศเยอรมนี ได้เดินทาง มาเยือนประเทศไทย ทางบริษัทไฮเดลเบิร์ก กราฟฟิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย Mr. Jochen Bender กรรมการผู้จัดการ ได้จัดงานเสวนาด้านการพิมพ์ภายใต้แนวคิด “Heidelberg Goes Digital” เพื่อเผยแพร่และอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางเทคโนโลยีการพิมพ์ใหม่ล่าสุดให้แก่ผู้ประกอบการและสมาคมการพิมพ์ต่างๆ พร้อมรับฟังการบรรยายพิเศษโดย Mr. Stephan Plenz หัวข้อ “Heidelberg’s view on the opportunities and challenge that the Digitalization of our industry will brings along” โดย Mr. Rene Ludvigsen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไฮเดลเบิร์ก ภูมิภาคเอเชีย ให้เกียรติเป็นผู้กล่าวเปิดงานและกล่าวต้อนรับพร้อมร่วมรับฟังการบรรยายดังกล่าว งานนี้จัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561 ณ ห้องสโรชา โรงแรม Siam Kempinski
โดยเนื้อหาการบรรยายเชิงลึกของ Mr.Stephan Plenz พอสรุปได้ว่า ปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการความเป็นดิจิตอล มากขึ้น แม้อัตราการเจริญเติบโตของ Publishing จะลดลง แต่สิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์ยังมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น และโรงพิมพ์ในอนาคตจะใช้คนน้อยลง โดยจะมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในขั้นตอนและกระบวนการการผลิตงานพิมพ์เป็นหลัก ไฮเดลเบิร์กจึงได้คิดค้นออกแบบและผลิตเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อรองรับการทำงานและการใช้งานในยุคดิจิตอล เช่น เครื่องพิมพ์ตระกูล Fire-line ได้แก่ เครื่องพิมพ์บรรจุภัณฑ์ระบบดิจิตอล Primefire, เครื่องพิมพ์ดิจิตอล Versafire, เครื่องพิมพ์ดิจิตอลระบบอิงค์เจ็ท Omnifire เป็นต้น ซึ่งเครื่องพิมพ์เหล่านี้ถูกออกแบบให้สามารถรองรับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Prinect ซึ่งเป็นระบบ Workflow อัจฉริยะที่ ไฮเดลเบิร์กภูมิใจนำเสนอมาก เพราะเป็นระบบที่ช่วยให้โรงพิมพ์ทำงานง่ายขึ้น เป็นระบบมากขึ้น สามารถควบคุมเครื่องพิมพ์ให้ทำงานได้ตามที่กำหนด
นอกจากนี้ ไฮเดลเบิร์กยังมีพันธมิตรชั้นนำที่มีคุณภาพระดับโลก อีก 2 บริษัท คือ บริษัทแรก “Gallus” ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ฉลาก จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยล่าสุดได้จับมือกับไฮเดลเบิร์ก ผลิตเครื่องพิมพ์ฉลากระดับอุตสาหกรรมที่มีระบบ finishing ในตัว คือเครื่องพิมพ์ รุ่น Gallus LabelFire 340 ส่วนบริษัทที่ 2 “MasterworK” ผู้ผลิตเครื่องหลังพิมพ์ชั้นนำจากประเทศจีน ซึ่งเครื่องจักรหลังพิมพ์บางรุ่นของ MK สามารถรองรับการควบคุมการทำงานด้วยระบบ Prinect Workflow ได้แล้วด้วย
สุดท้าย หากไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเป็นหัวใจหลัก คือระบบ “Push to Stop” เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องพิมพ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเพิ่มผลผลิตได้เป็นเท่าตัวโดยใช้กำลังคนเท่าที่จำเป็น นอกจากนี้ ไฮเดลเบิร์ก ยังมี Big data (The Heidelberg Cloud: the largest PMI database) ขนาดใหญ่มาก เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้า และมีระบบ Heidelberg Assistant เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งานได้อย่างทันท่วงทีและครบวงจร และมีบริการใหม่ Heidelberg Subscription ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของลูกค้าด้วย
ก่อนจบการบรรยาย คุณ Stephan ยังได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยความภาคภูมิใจอีกว่า “เพราะเราเป็น ผู้ช่วยเหลือและดูแลทุกสิ่งอย่างในธุรกิจการพิมพ์ ของลูกค้า ดังนั้น เมื่อลูกค้าประสบความสำเร็จ ไฮเดลเบิร์กก็ย่อมจะยินดีและภูมิใจในความสำเร็จ ของลูกค้าที่มีเราเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ นั้นด้วย”
ปาหนัน...รายงาน